ส่วนสมุนไพรอื่น ๆ ที่ช่วยให้การทำงานของทางเดินอาหารดีขึ้น ก็จำพวกที่ช่วยขับลม เพราะการที่ขับลมออกมา จะทำให้ในกระเพาะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นที่จะทำหน้าที่การย่อยอาหารและดูดซึม สมุนไพรอย่าง โหระพา สะระแหน่ ขมิ้นชัน ขิง หรือเจ้าสมุนไพรอย่าง ว่านหางจระเข้ นั้นช่วยได้ ซึ่งวุ้นว่านหางจระเข้ จะช่วยเคลือบลำไส้จากการถูกทำลายด้วยอาหารที่มีรสจัด ดังนั้นจึงมีการนำวุ้นวานหางจระเข้มาใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เพราะไม่ใช่แค่เคลือบกระเพาะอย่างเดียว ว่านหางจระเข้ยังช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
น้ำว่านหางจระเข้ก็พอจะใช้ได้ แต่อาจไม่ดีเท่ากับวุ้นสดนัก ถ้าจะทำน้ำว่านหางจระเข้ก็ต้องใช้ความร้อนที่ไม่สูงมากในการต้ม (ความร้อนไม่ควรมากกว่า 60 องศาเซลเซียส) สามารถปรุงรสตามชอบใจได้ แต่อย่างปรุงจนรสหวานมาก จะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน
นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีรสขมก็จะช่วยเพิ่มการหลั่งของน้ำดีและน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารได้ ที่คนไทยรู้จักดี เช่น บอระเพ็ด มะระขี้นก หรือถ้าอาหารไม่ย่อย ก็สามารถรับประทานสับปะรดที่มีเอนไซม์ โบรมีเลนเข้าไป ช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้
ข้อมูลจากหนังสือ สมุนไพรเพื่อชีวิตพิชิตโรคภัย