ฟักทอง Cucurbita moschata Decne.
เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นเป็นเถาอาศัยเลื้อยไปตามพื้นดินหรือหลักยึดต่าง ๆ มีมือเอาไว้เกาะยึดสิ่งต่าง ๆ เถามีขนาดยาวใหญ่และมีขนปกคลุมอยู่มีสีเขียว ใบออกใบเดี่ยวตามลำเถาเป็นแผ่นใหญ่สีเขียว แยกออกเป็น 5 หยักและมีขนสาก ๆ มือ ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งใบ ดอกออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ ลักษณะของดอกเป็นรูปกระดิ่งหรือระฆังสีเหลือง ผลมีขนาดใหญ่ลักษณะเป็นพูกลม ส่วนใหญ่เป็นทรงแบนและมีทรงสูงอยู่บ้าง เปลือกของผลจะแข็งผิวลักษณะขรุขระมีทั้งสีเขียวหรือสีน้ำตาลแดงก็ตามแต่พันธุ์ของฟักทอง เนื้อในผลสีเหลือง มีเม็ดสีขาว
เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้
เปลือกฟักทอง สามารถกระตุ้นการหลังอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายได้ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
เมล็ด ประกอบด้วยแป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน รวมทั้งสารที่ชื่อว่า “คิวเคอร์บิติน” ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี และยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้น้ำมันจากเมล็ดฟักทองยังช่วยบำรุงประสาทได้ดี และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายใหญ่ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ
ราก นำมาต้มน้ำดื่มแก้อาการไอได้ และยังช่วยบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่นได้
เยื่อกลางผล สามารถนำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้